MC Delivery Thailand

MC Delivery Thailand แอพของเรา เน้นบริการ ทั้งร้านค้าและลูกค้า
MC Delivery ส่งความสุขทุกการสั่ง

ทริคเด็ดต้องรู้ เคล็ดลับ "ปลูกถั่วพู" โตเร็ว งอกดี เก็บกินได้ไวอยากปลูกถั่วพูให้ดกเต็มค้าง? ทริคเด็ดที่ต้องรู้ ปลูกง่าย ...
20/02/2025

ทริคเด็ดต้องรู้ เคล็ดลับ "ปลูกถั่วพู" โตเร็ว งอกดี เก็บกินได้ไว
อยากปลูกถั่วพูให้ดกเต็มค้าง? ทริคเด็ดที่ต้องรู้ ปลูกง่าย โตไว แถมอร่อยสุด ๆ มาดูเคล็ดลับที่จะทำให้ถั่วพูของคุณงอกงาม ฝักใหญ่ กรอบอร่อย พร้อมสรรพคุณเพียบ บำรุงสุขภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้ ไทยวิถี มีเคล็ดลับง่ายๆมาบอก มือใหม่ไม่ต้องห่วงทำตามได้แน่นอน
ทริคเด็ดที่ต้องรู้!

แช่เมล็ดในน้ำอุ่นก่อนปลูก ช่วยให้งอกไวขึ้น

เก็บแล้วรีบเข้าครัว เพราะถั่วพูสด ๆ กรอบอร่อยที่สุด!

ปลูกเอง กินเอง ปลอดสารเคมี แถมอร่อยด้วย!

วิธีปลูก ถั่วพู

อยากปลูกถั่วพูแต่ไม่รู้เริ่มยังไง? มาทางนี้! ปลูกไม่ยาก ดูแลไม่เยอะ แต่ได้ผลผลิตเพียบ!

วิธีปลูกถั่วพูง่าย ๆ
หยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดลงหลุม ลึกแค่ 2-4 ซม. แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
7-10 วัน ต้นอ่อนจะงอก ให้คัดต้นที่แข็งแรงไว้ 2 ต้นต่อหลุม
รองพื้นปุ๋ยให้พร้อม ใช้ไม้ทำค้างให้ต้นเลื้อยขึ้นสวย ๆ
รดน้ำให้ชุ่มชื้น แต่อย่าปล่อยให้แฉะ
รอเวลาเก็บเกี่ยว!

100-120 วัน ดอกจะเริ่มมา สัญญาณว่าถึงเวลารอฝัก!
140-160 วัน ได้เวลาเก็บฝักไปทำเมนูอร่อยแล้วจ้า
ปลูกเอง กินเอง ปลอดสารเคมี แถมอร่อยด้วย!

สรรพคุณของถั่วพู

บำรุงผิวพรรณ – อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวใส ดูอ่อนกว่าวัย

เสริมสร้างกระดูกและฟัน – มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง

ช่วยย่อยอาหาร – มีไฟเบอร์สูง กระตุ้นระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก

บำรุงสายตา – มีวิตามินเอสูง ช่วยให้สายตาดี ลดความเสี่ยงของโรคตาเสื่อม

ควบคุมน้ำตาลในเลือด – ใยอาหารในถั่วพูช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน – อุดมด้วยโปรตีนจากพืชและแร่ธาตุสำคัญ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

บำรุงหัวใจ – มีโพแทสเซียมสูง ช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

ช่วยลดน้ำหนัก – แคลอรี่ต่ำ ไขมันน้อย แต่ไฟเบอร์สูง อิ่มนาน ไม่อ้วน

เพิ่มพลังงานให้ร่างกาย – มีธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด ลดอาการอ่อนเพลีย

ต้านอนุมูลอิสระ – ลดความเสี่ยงของโรคร้าย เช่น มะเร็ง และโรคเรื้อรังอื่น ๆ

5 อาหารลดไขมันพอกตับ หากินง่ายๆ กู้สุขภาพก่อนสายเกินแก้โรคไขมันพอกตับ กำลังเป็นภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม แม้จะไม่มีอาการร...
18/02/2025

5 อาหารลดไขมันพอกตับ หากินง่ายๆ กู้สุขภาพก่อนสายเกินแก้
โรคไขมันพอกตับ กำลังเป็นภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม แม้จะไม่มีอาการรุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่ ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ ได้ หนึ่งในวิธีป้องกันและฟื้นฟูตับที่ดีที่สุด คือ การปรับพฤติกรรมการกิน วันนี้เราจึงรวบรวม 5 อาหารช่วยลดไขมันพอกตับ ที่คุณควรเริ่มทานตั้งแต่วันนี้
1. ผักใบเขียว – ตัวช่วยดีท็อกซ์ตับ

ผักโขม คะน้า บรอกโคลี อุดมไปด้วย ไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ และลดการสะสมไขมันส่วนเกิน งานวิจัยยังพบว่าผักใบเขียวช่วยลดเอนไซม์ตับที่ผิดปกติ และลดความเสี่ยงของโรคตับไขมัน
2. อะโวคาโด – ไขมันดีช่วยฟื้นฟูตับ

อะโวคาโด เป็นแหล่งของ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ที่ช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) นอกจากนี้ยังมี กลูตาไธโอน (Glutathione) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วย ขับสารพิษ ออกจากตับ
3. กาแฟ – ลดความเสี่ยงตับอักเสบ

งานวิจัยพบว่าการดื่ม กาแฟวันละ 1-2 แก้ว สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้ โดยสารประกอบในกาแฟช่วยลดการอักเสบของตับ ลดการสะสมไขมัน และยังช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่ช่วยเผาผลาญไขมันในตับอีกด้วย
4. ปลาที่มีโอเมก้า-3 – ลดการอักเสบของตับ

ปลาที่อุดมไปด้วย โอเมก้า-3 เช่น แซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของตับ และช่วยปรับสมดุลไขมันในร่างกาย ควรรับประทานสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อสุขภาพตับที่แข็งแรง
5. ถั่วและเมล็ดพืช – ไขมันดีช่วยลดไขมันพอกตับ

อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ อุดมไปด้วยไขมันดี โปรตีน และวิตามินอี ซึ่งช่วยป้องกันการอักเสบของตับและลดการสะสมของไขมัน แนะนำให้ทานวันละ 1 กำมือ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อสุขภาพตับที่แข็งแรง

นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพตับแล้ว ควรลดการกินอาหารไขมันสูง น้ำตาล และแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และฟื้นฟูการทำงานของตับให้กลับมาแข็งแรง

หากคุณเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ตับจะขอบคุณคุณแน่นอน

6 อาหารเสริมที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและรับมือกับฝุ่น PM 2.5มาดูกันค่ะ “6 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน” ในช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2....
17/02/2025

6 อาหารเสริมที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและรับมือกับฝุ่น PM 2.5
มาดูกันค่ะ “6 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน” ในช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในปัจจุบันยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวล การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการสวมหน้ากากป้องกันและหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษแล้ว การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยอาหารเสริมที่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

6 อาหารเสริมที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและรับมือกับฝุ่น PM 2.5

วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว และอาหารเสริม
วิตามิน E เป็นอีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงเซลล์ปอด ซึ่งเป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากฝุ่น PM 2.5 พบได้ในน้ำมันพืช ถั่ว และเมล็ดพืช
สารสกัดจากกระชายดำ มีสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และช่วยลดผลกระทบจากสารพิษต่างๆ พบได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 พบได้ในปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และอาหารเสริมน้ำมันปลา
กระเทียม มีสารอัลลิซินที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านเชื้อแบคทีเรีย และลดการอักเสบ พบได้ในกระเทียมสด หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดจากกระเทียม
โปรไบโอติกส์ เป็นจุลินทรีย์ดีที่ช่วยเสริมสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับระบบภูมิคุ้มกัน พบได้ในอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต กิมจิ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติกส์
ข้อควรระวัง

การรับประทานอาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยา
อาหารเสริมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ การรักษาสุขภาพโดยรวมให้ดี เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

คำแนะนำ: นอกจากการรับประทานอาหารเสริมแล้ว การหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง และการสวมหน้ากากป้องกันก็เป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันตนเองจากอันตรายของฝุ่น PM 2.5


ขอบคุณ : กรมประชาสัมพันธ์

55555 ...😁📣 ของขวัญ  ออกมาล่ะน่ะ  3 กล่อง  🎁📣กล่องสุดท้าย   "ใครคือผู้โชคดี"🎊
14/02/2025

55555 ...😁
📣 ของขวัญ ออกมาล่ะน่ะ 3 กล่อง 🎁📣กล่องสุดท้าย "ใครคือผู้โชคดี"🎊

"อยากกินน้ำแข็ง" ทุกวัน ทั้งวัน ระวังให้ดี หมอชื่อดังเตือนเองอยากทานน้ำแข็ง ทั้งวัน ทุกวัน สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพร้ายแรง...
14/02/2025

"อยากกินน้ำแข็ง" ทุกวัน ทั้งวัน ระวังให้ดี หมอชื่อดังเตือนเอง
อยากทานน้ำแข็ง ทั้งวัน ทุกวัน สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพร้ายแรง เตือนโดย หมอหมูวีระศักดิ์ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า

เมืองไทยอากาศร้อน การทานน้ำแข็งตลอดเวลา อาจดูไม่ผิดปกติ แตกต่างกับต่างประเทศที่อากาศหนาวเย็น และในหลายประเทศไม่นิยมทานน้ำแข็งกัน ซึ่งหากคนในประเทศนั้นๆ อยากทานน้ำแข็ง ทั้งวัน ทุกวัน ก็จะดูเป็นเรื่องแปลกที่ต้องหาสาเหตุกัน
ดังนั้นวันนี้ผมขอนำเรื่องอาการของแปลกๆ ที่เรียกว่า โรคติดน้ำแข็ง (Pagophagia) มาเล่าให้ทุกท่านฟังกัน ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และเป็นสัญญาณเตือนของโรคอะไรได้บ้าง นะครับ

โรคติดน้ำแข็ง (Pagophagia) คือ

1. การบริโภคน้ำแข็ง อย่างไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของโรคที่เรียกว่า Pica
2. Pica หมายถึง การบริโภคสารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในกรณีนี้คือ น้ำแข็ง (จริงๆ มีอีกหลายชนิด เช่น ดิน โคลน ดินเหนียว และกระดาษ)

3. การบริโภคน้ำแข็ง 2–11 แก้วเต็ม ทุกวัน เป็นระยะเวลานานกว่า 2 เดือน ถือว่าเข้าข่าย โรคติดน้ำแข็ง (Pagophagia)

4. พบว่าเกี่ยวข้องกับ 1) โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก 2) ความเครียด 3) พฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ 4) พัฒนาการที่ผิดปกติในเด็ก

ทำไมผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก จึงต้องทานน้ำแข็งมากผิดปกติ

เชื่อว่า (อ้างอิงข้อมูลจากวารสาร J Am Assoc Nurse Pract.) ในผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก จะมีความเหนื่อยล้าเป็นอาการหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังสมองลดลง ดังนั้นร่างกายจึงกระตุ้นให้ผู้ป่วยต้องทานน้ำแข็งในปริมาณที่มาก เพื่อที่จะทำให้หลอดเลือดเกิดการหดตัว ซึ่งจะส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้กับสมอง ช่วยทำให้รู้สึกตื่นตัวและบรรเทาอาการอ่อนล้าให้กับผู้ป่วยได้
แม้ความเกี่ยวข้องของโรคติดน้ำแข็งกับโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอาจจะยังไม่มีรายงานทางการแพทย์ที่แน่ชัด แต่ก็มีงานวิจัยในผู้ป่วยโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก จำนวน 81 คน ซึ่งพบว่า ผู้ป่วย 13 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 16 มีอาการชอบเคี้ยวน้ำแข็งผิดปกติ และเมื่อทำการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วยการเสริมธาตุเหล็กก็ทำให้อาการชอบเคี้ยวน้ำแข็งหายไปด้วย

หากท่านสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับอาการชอบทานน้ำแข็งตลอดเวลาของตนเอง แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุของโรคและหาวิธีรักษาที่เหมาะสม เพราะอย่างที่บอก อาการอยากทานน้ำแข็ง ทั้งวัน ทุกวัน อาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ นะครับ

อ้างอิงข้อมูลจาก:

1. Rabel A, Leitman SF, Miller JL. Ask about ice, then consider iron. J Am Assoc Nurse Pract. 2016 Feb;28(2):116-20. doi: 10.1002/2327-6924.12268. Epub 2015 May 5. PMID: 25943566; PMCID: PMC4635104.

2. Uchida T, Kawati Y. [Pagophagia in iron deficiency anemia]. Rinsho Ketsueki. 2014 Apr;55(4):436-9. Japanese. PMID: 24850454.

เรียบเรียงโดย: รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี

รับสมัคร... เจ้าของธุรกิจ งานแบบใหม่ ........................MC Delivery 💖-ทุกจังหวัด-ทุกอำเภอ-มีมุมมองธุรกิจแนวใหม่-มีท...
12/02/2025

รับสมัคร... เจ้าของธุรกิจ
งานแบบใหม่ ........................MC Delivery 💖
-ทุกจังหวัด
-ทุกอำเภอ
-มีมุมมองธุรกิจแนวใหม่
-มีทัศนคติก้าวหน้ายุคใหม่
-มีใจรักงานบริการทันสมัย
-มีความตั้งใจเติบโตไปพร้อมกัน
👇👇👇👇
-เงินทุนน้อย
-ทีมซัพฟอร์ต 24 ชม
-แบบแผนกว้างขวาง
-รายได้ดี
📣👇📣👇
สนใจติดต่อ
คุณให่ 0631696987
คุณตังค์ 0849416294

5 อาหารที่ไม่ควรแช่ตู้เย็น คุณภาพลดลง แถมเสี่ยงอันตราย“5 อาหาร” ที่ ไม่ควรแช่ตู้เย็น หลายคนเข้าใจผิดว่าการแช่อาหารทุกชนิ...
12/02/2025

5 อาหารที่ไม่ควรแช่ตู้เย็น คุณภาพลดลง แถมเสี่ยงอันตราย
“5 อาหาร” ที่ ไม่ควรแช่ตู้เย็น หลายคนเข้าใจผิดว่าการแช่อาหารทุกชนิดในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุและคงความสดใหม่ได้ แต่ความจริงแล้วอาหารบางชนิดไม่เหมาะกับการแช่ในตู้เย็น เพราะอาจทำให้คุณภาพลดลง รสชาติเปลี่ยนไป หรือแม้กระทั่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
วันนี้เราจะมาเปิดเผย 5 อาหารที่ไม่ควรแช่ตู้เย็น เพื่อให้คุณได้รู้และหลีกเลี่ยง

👉แตงโม การแช่แตงโมในตู้เย็นจะทำให้แตงโมสูญเสียรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป และอาจทำให้แตงโมดูดกลิ่นจากอาหารอื่นๆ ในตู้เย็นมาด้วย
👉กล้วยดิบ กล้วยดิบไม่ควรแช่ตู้เย็น เพราะความเย็นจะทำให้กระบวนการสุกของกล้วยหยุดชะงัก ทำให้กล้วยไม่สุกและมีรสชาติฝาด
👉กระเทียม หอมหัวใหญ่ การเก็บกระเทียมและหอมหัวใหญ่ในตู้เย็นจะทำให้เกิดความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อราและทำให้เน่าเสียเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความเย็นยังทำให้เนื้อสัมผัสของหอมหัวใหญ่เหี่ยวและนิ่ม ไม่น่ารับประทาน
👉อาหารกระป๋อง อาหารกระป๋องที่เปิดแล้วไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับโลหะของกระป๋อง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
👉ขนมปัง การแช่ขนมปังในตู้เย็นจะทำให้ขนมปังแห้งและแข็ง ไม่นุ่มเหมือนเดิม

ต้มไข่อย่างไรให้สมบูรณ์แบบด้วยวิธีวิทยาศาสตร์👉ความเป็นจริงอันแสนโหดร้ายของชีวิตอย่างหนึ่งที่ทุกคนยอมรับกันถ้วนหน้า ก็คือ...
11/02/2025

ต้มไข่อย่างไรให้สมบูรณ์แบบด้วยวิธีวิทยาศาสตร์
👉ความเป็นจริงอันแสนโหดร้ายของชีวิตอย่างหนึ่งที่ทุกคนยอมรับกันถ้วนหน้า ก็คือการประสบปัญหาเรื่องพยายามต้มไข่หลายต่อหลายครั้งแทบล้มประดาตาย แต่ก็ไม่เคยได้ไข่ลวกหรือไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบดังใจเลยสักครั้ง

สำหรับชาวอังกฤษที่ชอบรับประทานไข่ลวกโดยใช้แท่งขนมปังปิ้ง (soldier) จิ้มไข่แดงที่ยังเหลวแต่ข้นเยิ้มเป็นอาหารเช้า พวกเขาจะรู้สึกผิดหวังมาก หากกะเทาะเปลือกไข่ด้านบนออกแล้วพบว่า ไข่แดงข้างในนั้นแข็งและแห้งไปแล้ว ส่วนไข่ขาวกลับเหลวเป็นเมือกวุ้นใสเพราะยังไม่สุกดี
👉ปัญหาโลกแตกนี้มีสาเหตุมาจากข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า ไข่แดงและไข่ขาวหรือ "อัลบูมิน" (albumin) จะสุกในระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกัน โดยไข่แดงจะสุกง่ายกว่าที่ระดับอุณหภูมิเพียง 65 องศาเซลเซียส ส่วนไข่ขาวนั้นจะสุกในอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาเล็กน้อยที่ 85 องศาเซลเซียส

ดังนั้นวิธีการต้มไข่แบบดั้งเดิมที่สั่งสอนกันมาแต่โบราณ ย่อมทำให้เกิดภาวะขัดแย้งแบบได้อย่างเสียอย่าง เช่นการทำไข่ต้มสุกด้วยอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส แม้ไข่ขาวจะสุกนุ่มสม่ำเสมอทั่วทั้งใบ แต่ไข่แดงก็ถูกต้มจนแข็งเป็นไตไปแล้ว ซึ่งหากคุณชอบกินแบบนั้นก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่คนที่ชอบไข่แดงแบบยางมะตูม หรือว่าไข่แดงแบบที่ข้นเยิ้มจนจุ่มแท่งขนมปังลงไปได้ ไข่ต้มที่สุกแข็งทั่วทั้งใบถือว่าน่าผิดหวังอย่างยิ่ง

ส่วนการต้มไข่แบบดั้งเดิมอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า "ซูวี" (sous vide) ใช้น้ำที่อุ่นเพียงเล็กน้อยระหว่าง 60-70 องศาเซลเซียส มาแช่ไข่เป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมง วิธีนี้รับประกันว่าไข่แดงจะยังคงอยู่ในสภาพของเหลว แต่หากทำผิดพลาดไข่ขาวบางส่วนอาจจะยังเป็นเมือกดิบอยู่ได้
👉อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คนรักไข่ลวกและไข่ต้มไม่ต้องกังวลกับปัญหาในครัวเรื่องเดิม ๆ อีกแล้ว เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีใหม่ในการลวกหรือต้มไข่ให้สุกกำลังดี ในแบบที่คล้ายกับไข่ออนเซ็นของญี่ปุ่น แต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าและดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย

งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications Engineering ฉบับวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยที่นำโดย ดร.เปลเลกรีโน มุสโต จากสภาวิจัยแห่งชาติของอิตาลี ได้สาธิตกระบวนการทำไข่ให้สุกแบบใหม่ด้วยเทคนิค "พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ" (computational fluid dynamics – CFD) เทคนิคนี้คือการใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ทำนายว่าของเหลวและก๊าซจะไหลในรูปแบบใด ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ควบคุมด้วยกฎฟิสิกส์ต่าง ๆ เช่นกฎการอนุรักษ์มวล, กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม, และกฎการอนุรักษ์พลังงานการทดสอบด้วยแบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นว่า วิธีการที่ดีที่สุดในการลวกหรือต้มไข่ ซึ่งเหล่าพ่อครัวแม่ครัวทั้งระดับเชฟหรือมือสมัครเล่นต่างก็ไม่เคยได้ยินได้เห็นกันมาก่อน ได้แก่วิธี "ทำให้สุกเป็นระยะ" (periodic cooking) โดยต้องต้มไข่ในน้ำเดือด 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 นาที จากนั้นนำไข่ไปแช่ในน้ำที่อุ่นเล็กน้อยเพียง 30 องศาเซลเซียส อีก 2 นาที ก่อนจะนำกลับไปใส่ในน้ำเดือดอีกครั้ง โดยคอยสลับให้ไข่อยู่ในอุณหภูมิทั้งสองระดับนี้ แบบละ 2 นาที ซึ่งต้องทำวนไปเป็นเวลาทั้งสิ้น 32 นาที

แม้จะฟังดูยุ่งยากและจุกจิกกวนใจ สำหรับคนที่มีนิสัยชอบใช้เวลาในการต้มไข่ไปทำอย่างอื่น หรือแอบย่องออกนอกห้องครัวไปชั่วขณะ แต่ผลที่ได้จากการต้มไข่ด้วยเทคนิคใหม่นั้นคุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ โดยทีมวิจัยของ ดร.มุสโตยืนยันว่า ผลการตรวจวิเคราะห์โครงสร้างสารประกอบด้วยอุปกรณ์ NMR ซึ่งดูการสั่นเชิงนิวเคลียร์ของโมเลกุลในสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และผลการใช้อุปกรณ์วิเคราะห์สสารด้วยแสงความละเอียดสูง HRMS พบว่าไข่ที่ต้มด้วยเทคนิคการทำให้สุกเป็นระยะ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า
ไข่ที่ทำให้สุกด้วยเทคนิคใหม่ มีลักษณะคล้ายกับไข่ออนเซ็นหรือไข่ลวกซูวี เนื่องจากไข่แดงยังเป็นของเหลวข้นเยิ้ม แต่ต่างจากไข่ลวกซูวีตรงที่ว่า ไข่ขาวหรืออัลบูมินนั้นสุกนุ่มกำลังดีทั่วทั้งใบ คล้ายกับไข่ลวกที่เชฟร้านดังทำออกมาได้ดี โดยไม่เป็นน้ำเหลวหรือมีส่วนที่เป็นเมือกวุ้นใสเลย

ทีมผู้วิจัยเฉลยว่า สาเหตุที่เทคนิคการต้มไข่แบบใหม่ได้ผลดี อาจเป็นเพราะไข่แช่อยู่ในอุณหภูมิระหว่าง 35-100 องศาเซลเซียสตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้ไข่แดงได้อยู่ในระดับอุณหภูมิคงที่ 67 องศาเซลเซียส ตลอดกระบวนการทำให้สุก

ฉลอง ‘วันแห่งความรัก’ กับอาหารออกแบบพิเศษ ‘เทศกาลวาเลนไทน์’       สยามพารากอน ชั้น G โซนกูร์เมต์การ์เด้น และ ชั้น 3ร้าน ...
10/02/2025

ฉลอง ‘วันแห่งความรัก’ กับอาหารออกแบบพิเศษ ‘เทศกาลวาเลนไทน์’
สยามพารากอน ชั้น G โซนกูร์เมต์การ์เด้น และ ชั้น 3

ร้าน Beanhound by Greyhound Café (ชั้น G) จัด เทศกาลวาเลนไทน์ ด้วยสตรอว์เบอร์รี่สดในเมนูพิเศษ เช่น Strawberry Crepe cake ราดด้วยซอสสตรอว์เบอร์รี่หวานฉ่ำ มาพร้อม Caramel Ganache Brownie cake Topping ด้วยแมคคาเดเมีย หรือเลือกท็อปปิ้งด้วยราสพ์เบอร์รี่อบแห้งและช็อกโกแลตเข้มข้น และเครื่องดื่มสูตรพิเศษวันแห่งความรัก ได้แก่ กาแฟผสมมะนาวกรุ่นกลิ่น ด้วยกลีบกุหลาบอบแห้ง
ร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น Hikari Mille press (ชั้น 3) เมนู Secret Valentine Special ด้วย Mille Presse หัวใจสูตรลับเฉพาะ ที่อบอวลไปด้วยความอร่อย หอม กรอบ ลิ้มลองได้แล้ววันนี้ถึงวันที่ 20 ก.พ.

ร้าน Honmono Sushi ต้อนรับ วันแห่งความรัก 14 ก.พ.นี้ด้วย “อูนิรูปหัวใจ” ไข่หอยเม่นสายพันธุ์ Bafun สดจากฮอกไกโด บรรจุในกล่องรูปหัวใจสุดน่ารัก เสิร์ฟพร้อมสาหร่ายโนริกรอบ ๆ และข้าวซูชิสีทองจากเมืองนิงาตะ มีจำนวนจำกัด จองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ - 11 กพ. (วัตถุดิบเข้าพร้อมกันวันที่ 14 กพ.ที่ Honmono Sushi ชั้น G)
ร้าน Mozza by Cocotte ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมด (ชั้น G) รังสรรค์เมนูขนมหวานหน้าตาหวานฉ่ำชวนลิ้มลอง ได้แก่ Peach Melba Cheesecake คัดสรรส่วนผสมสุดพรีเมียม อาทิ พีช ราดด้วยราสพ์เบอร์รี่ซอส จับคู่กับไอศกรีมวนิลลา
และเครื่องดื่มค็อกเทลสีสวย Sweet Romance ที่มีส่วนผสมของเหล้าจิน และน้ำผลไม้ อาทิ แครนเบอร์รี่และมะนาว เติมรสชาติหวานอมเปรี้ยวด้วยราสพ์เบอร์รี่ ไซรัป

ส่วนม็อกเทลสีชมพูสวยสด A Rosy Day หอมสดชื่นด้วยสตรอว์เบอร์รี่ ไซรัป วานิลา โยเกิร์ต เพิ่มความหวานสดชื่นด้วยน้ำลิ้นจี่ และมะนาว
ร้านขนม Ronnie’s Macaron มาการองสไตล์สวิตเซอร์แลนด์ ตัวมาการองโปร่งหนึบ พร้อมครีมสดรสชาติเข้มข้น หอมอัลมอนด์อบเกรดพรีเมียมจาก California ปราศจากแป้งและหวานน้อยกว่า

เมนูพิเศษ My Macaron Cake ขนาด 27 ชิ้น ตกแต่งสำหรับ เทศกาลวาเลนไทน์ โดยเฉพาะ จากนั้นมาอร่อยกับ Valentine Collection จาก
ร้าน SOURI (ชั้น G) ชวนเติมความหวานกันอย่างเต็มที่ใน Valentine Collection แนะนำ “แฟตการองดอกไม้” เมื่อซื้อ 6 ชิ้น รับกล่องและการ์ดดอกไม้สุดพิเศษ (สามารถคละรสชาติได้) พิเศษสำหรับสมาชิก เมื่อซื้อ Valentine’s Merchandise 2 ชิ้นขึ้นไป รับแต้ม X2

ร้าน Self. Smoothie (ชั้น G) เมนูใหม่ Cacao Raspberry Velvet รับ เทศกาลแห่งความรัก กับรสชาติหวานอมเปรี้ยวของผลไม้อย่างราสพ์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ กล้วย และมะม่วง ผสานเข้ากับความเข้มข้นของผงคาเคา สู่รสชาติความรักที่ละมุนละไมแต่ไม่ขม
พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษ SIAM DISCOVERY IN LOVE WE TRUST ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.พ. 68 ทานอาหารจากร้านอาหารที่ร่วมรายการในสยามดิสคัฟเวอรี่ ครบ 2,500 บาทขึ้นไป แลกรับเครื่องดื่มเมนูพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการ มูลค่ารวม 750 บาท และพบกับ Siam Discovery Valentine's Market กับเมนูสุดฟินจากร้านเด็ดที่คัดสรรมาไว้ที่ Flavor Lab ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ตั้งแต่วันนี้ถึง 16 ก.พ.68
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ FB: / IG: SiamParagon, SiamCenter, SiamDiscovery

แกงส้มพริกสด – ในตำราแกงส้มแบบภาคกลาง นอกจากสูตรมาตรฐานที่น้ำแกงออกสีส้มๆ แล้ว มีที่น้ำแกงสีอ่อน แต่รสชาติสดชื่นจัดจ้าน ...
04/02/2025

แกงส้มพริกสด – ในตำราแกงส้มแบบภาคกลาง นอกจากสูตรมาตรฐานที่น้ำแกงออกสีส้มๆ แล้ว มีที่น้ำแกงสีอ่อน แต่รสชาติสดชื่นจัดจ้าน เพราะแทนที่จะใช้พริกแห้งเม็ดใหญ่และน้ำมะขามเปียกปรุงรส กลับตำเครื่องแกงด้วยพริกสด และมักเติมเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาวเพิ่ม หรือใช้มะนาวเป็นหลักไปเลย ผักที่นิยมคือผักบุ้ง ส่วนใหญ่เป็นแกงปลาน้ำจืดที่มีเนื้อมาก อย่างปลาช่อน เป็นต้น
ยิ่งโดยเฉพาะในตำราอาหารเก่า หลายครั้งก็ช่วยเปิดโลกใบเดิมๆ ได้อย่างน่าตื่นเต้น อย่างเช่นแกงส้มนั้น จะมีสูตรแกงใส่ถั่วฝักสด อย่างแกงส้มถั่วลันเตา ซึ่งคนเมืองรุ่นปัจจุบันคงแทบนึกไม่ออกเอาเลยทีเดียว
ผมตั้งใจแกงกับปลาช่อน จึงไปหาซื้อปลาช่อนนาได้จากกาดแม่เหียะ วานเขียงปลาช่วยหั่นชิ้นมาให้เรียบร้อยบีบมะนาวใส่ถ้วย เตรียมน้ำตาลอ้อย น้ำปลา ไว้เติมรสเค็มรสหวาน
ตั้งหม้อน้ำบนเตาไฟ ละลายพริกแกงส้มพริกสดของเราลงไปครับ เติมเกลือนิด น้ำปลาหน่อย พอเดือดพล่าน ใส่หัวปลาไปก่อน ตามด้วยฝักถั่วแปบ กลิ่นพริกแกงที่สุกในหม้อน้ำจะหอมขึ้นมาพร้อมๆ กับถั่วเริ่มนุ่ม ใส่ชิ้นเนื้อปลาช่อน กดให้จมน้ำแกง รอจนเดือดอีกครั้ง และกลิ่นปลาลอยขึ้นมาผสมกลิ่นพริกแกง จึงปรุงด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ให้เปรี้ยวนำ เค็ม เผ็ดตาม หวานตบท้ายเพียงเล็กน้อยเพียงเท่านี้ก็ได้แกงส้มพริกสดน้ำใสๆ ไว้กินกับข้าวสวยร้อนๆ ไข่เจียว ปลาเค็มทอด ถ้ามีผัดผักอะไรอีกสักจาน ก็เยี่ยมไปเลย

แต่ถ้าเอาตามที่ผมชอบ และได้ยินคนเก่าๆ หลายคนเมตตาแนะนำไว้ คือแกงส้มนั้นจะอร่อยขึ้นเมื่ออุ่นครั้งที่สองหรือสาม น้ำแกงจะเข้าเนื้อผักเนื้อปลา รสชาติลงตัวขึ้นอย่างสังเกตได้ชัด ดังนั้นเมื่อแกงเสร็จใหม่ๆ เราจะกินสักชามหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วลองสังเกตรสชาติน้ำแกง เนื้อสัมผัสของผักของปลาในมื้อต่อไปดูนะครับ ผักอาจดูดรสน้ำแกงไปจนเราจำต้องเติมเปรี้ยวเติมเค็มเพิ่ม แต่นั่นหมายความว่ามันคายรสหวานในตัวมันออกมาอย่างเต็มที่แล้วด้วย

นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แกงส้มค้างคืนอร่อยกลมกล่อมกว่าแกงหม้อใหม่หมาดเสมอ

ถั่วแปบนั้นมีเนื้อมาก โดยเฉพาะพันธุ์ฝักหนา จะอมน้ำแกงเข้าไปจนชุ่มนุ่มเมื่ออุ่นครั้งที่สอง ผมเพียงเพิ่มน้ำมะนาวเติมรสเปรี้ยวอีกเล็กน้อย ข้อที่ต้องบอกกล่าวให้ระวังไว้ก่อน คือรสเผ็ดของพริกสดที่เราใช้

พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กๆ จะเผ็ดหอมชื่นใจ ส่วนพริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่อย่างพริกจินดา หรือกระทั่งพริกชี้ฟ้าสีแดง สีเขียวอ่อนนั้น เดี๋ยวนี้เผ็ดแสบปากขึ้นมาก พึงระวังใช้ในสัดส่วนที่เราและคนที่เราจะทำให้เขากินพอรับความเผ็ดได้นะครับ ไม่อย่างนั้นมันจะไปกลบรสอื่นเสียหมด จนแกงพลอยไม่อร่อยไป

03/02/2025

💗💗ผู้มีส่วนร่วมปันน้ำใจให้น้องๆคริสตจักรสายธารธรรมในครั้งนี้💗💗
💚🛵MC Delivery🛵💚
👉สาขาห้วยไคร้
👉สาขาแม่จัน
👉สาขาเชียงแสน
👉สาขาแม่ลาว
👉สาขาบ้านดู่
🙏ลูกค้าที่น่ารักทุกท่าน
🙏ร้านร่วมแอฟทุกร้าน
ที่ได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงข้าว
"น้องๆคริสตจักรสายธารธรรม"
อาจจะเป็นน้ำใจเล็กๆจาก
"MC Delivery" แต่พวกเราเต็มใจที่จะทำค่ะ เเละเราจะทำต่อไปค่ะ💚🛵

💗💗ผู้มีส่วนร่วมปันน้ำใจให้น้องๆคริสตจักรสายธารธรรมในครั้งนี้💗💗💚🛵MC Delivery🛵💚👉สาขาห้วยไคร้👉สาขาแม่จัน👉สาขาเชียงแสน👉สาขาแ...
03/02/2025

💗💗ผู้มีส่วนร่วมปันน้ำใจให้น้องๆคริสตจักรสายธารธรรมในครั้งนี้💗💗
💚🛵MC Delivery🛵💚
👉สาขาห้วยไคร้
👉สาขาแม่จัน
👉สาขาเชียงแสน
👉สาขาแม่ลาว
👉สาขาบ้านดู่
🙏ลูกค้าที่น่ารักทุกท่าน
🙏ร้านร่วมแอฟทุกร้าน
ที่ได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงข้าว
"น้องๆคริสตจักรสายธารธรรม"
อาจจะเป็นน้ำใจเล็กๆจาก
"MC Delivery" แต่พวกเราเต็มใจที่จะทำค่ะ เเละเราจะทำต่อไปค่ะ💚🛵

รับสมัครไรเดอร์ส่งอาหารประจำ จำนวนมาก ทุกสาขา รายได้ขึ้นอยู่กับความขยัน ตามจำนวนออเดอร์ประจำพื้นที่ ห้วยไคร้ -แม่จัน-แม่...
24/01/2025

รับสมัครไรเดอร์ส่งอาหารประจำ จำนวนมาก ทุกสาขา
รายได้ขึ้นอยู่กับความขยัน ตามจำนวนออเดอร์
ประจำพื้นที่ ห้วยไคร้ -แม่จัน-แม่ลาว-เชียงแสน-บ้านดู่
✔️ อายุ 18 ปีขึ้นไป
✔️ ไม่จำกัดเพศ / วัย
✔️ รับผิดชอบต่องาน
✔️ มีใจรักในการบริการ
✔️ ไม่มีประวัติอาชญากรรม
✔️ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
สนใจติดต่อ 0631696987

ต่อไปนี้เป็นน้ำซุปข้นที่ปลอบโยนที่สุด 5 อันดับสำหรับฤดูหนาวปี 2025ความหนาวเย็นอันขมขื่น ค่ำคืนที่ยืดเยื้อ และแน่นอนว่า.....
21/01/2025

ต่อไปนี้เป็นน้ำซุปข้นที่ปลอบโยนที่สุด 5 อันดับสำหรับฤดูหนาวปี 2025
ความหนาวเย็นอันขมขื่น ค่ำคืนที่ยืดเยื้อ และแน่นอนว่า... ความปรารถนาอันไม่อาจต้านทานได้ที่จะซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมกับอาหารอันแสนอบอุ่นและปลอบโยน และอะไรจะดีไปกว่าน้ำซุปข้นแบบครีมเพื่อเพิ่มสีสันให้กับมื้ออาหารของคุณ? มันนุ่ม ห่อหุ้ม และแน่นอนว่าอร่อยมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของน้ำซุปข้นแบบคลาสสิกหรือชอบที่จะลองรสชาติใหม่ๆ นี่คือ 5 น้ำซุปข้นที่สบายใจที่สุดของเราเพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับฤดูหนาวนี้
มันฝรั่งบดกับเนยสีน้ำตาลและทรัฟเฟิล
มันฝรั่งบด กับเนยสีน้ำตาลและทรัฟเฟิลมีลักษณะคล้ายกับมันฝรั่งบดคลาสสิกในเวอร์ชันที่ซับซ้อน แต่มีเวอร์ชันที่ให้ความรู้สึกสบายใจมากกว่า ปล่อยให้เนยละลายในกระทะจนเปลี่ยนเป็นสีทองและปล่อยกลิ่นถั่วออกมา จากนั้นจึงใส่มันลงในมันฝรั่งบด ซึ่งคุณจะปรุงสุกไว้ก่อนหน้านี้จนสมบูรณ์แบบแล้ว คุณจะได้น้ำซุปข้นเนื้อครีมที่มีกลิ่นหอม ซึ่งชวนให้นึกถึงกลิ่นอันละเอียดอ่อนของเห็ดทรัฟเฟิล ความสุขที่แท้จริง! และเพื่อการปรับแต่งเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย คุณสามารถเพิ่มทรัฟเฟิลดำขูดสองสามชิ้นได้
ฟักทองและแครอทบดรสเผ็ด
ฟักทองซึ่งมีเนื้อนุ่มและหวาน เหมาะสำหรับน้ำซุปข้นในฤดูหนาว ลองนึกภาพมันผสมกับแครอทที่กำลังละลายและปรุงรสด้วยเครื่องเทศอุ่นๆ เช่น อบเชย ยี่หร่า หรือขิง... ทัวร์รอบโลกที่มีรสชาติที่แท้จริง! น้ำซุปข้นนี้ โดดเด่นด้วยความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างความหวานและเครื่องเทศ เหมาะสำหรับการอุ่นต่อมรับรสหลังจากวันที่อากาศเย็นจัด เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มของฟักทองผสมผสานกันอย่างลงตัวกับความกลมกล่อมของแครอท จึงให้น้ำซุปข้นที่นุ่มนวลอย่างหาที่เปรียบมิได้ เป็นเมนูที่ให้ความอบอุ่นทั้งร่างกายและจิตใจ!
หัวผักกาดและถั่วลันเตาบด
พาร์สนิปซึ่งเป็นรากผักที่มีรสหวานละเอียดอ่อนและเผ็ดเล็กน้อย ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นน้ำซุปข้นที่มีความหวานอย่างหาที่เปรียบมิได้ เมื่อรวมกับถั่วลันเตาซึ่งให้เนื้อครีมและกลิ่นโปรตีนจากผัก จานนี้จะกลายเป็นการกอดรัดกระเพาะอาหารอย่างแท้จริง ในการทำน้ำซุปข้นนี้ ให้ปรุงพาร์สนิปจนนุ่ม และถั่วลันเตาแยกจนสุก จากนั้น ผสมทุกอย่างกับน้ำมันมะกอกเล็กน้อยเพื่อให้ได้เนื้อครีมและสมุนไพร เช่น โรสแมรี่หรือเสจ เพื่อให้มีกลิ่นหอม คุณจะได้น้ำซุปข้นที่มีทั้งรสชาติและไส้ เหมาะสำหรับทานคู่กับสตูว์มังสวิรัติหรือ สลัด ผักย่าง
บีทรูทและกะทิบด
หากคุณต้องการเพิ่มสีสันและความหวานให้กับมื้ออาหารในช่วงฤดูหนาว บีทรูท และกะทิบดนี้เป็นผลงานชิ้นเอกอย่างแท้จริง บีทรูทที่มีสีสดใสและรสชาติเอิร์ธโทน เข้ากันได้อย่างลงตัวกับความหวานของกะทิ สำหรับสูตรนี้ ปรุงบีทรูทจนนุ่ม จากนั้นผสมกับกะทิจนเนียนและเป็นครีม หากต้องการเพิ่มรสชาติ คุณสามารถเพิ่มยี่หร่าหรือผักชีเล็กน้อยเพื่อเพิ่มเครื่องเทศ หรือแม้แต่ขิงเล็กน้อย น้ำซุปข้นวีแกนและสีสันสดใสนี้เหมาะที่จะรับประทานคู่กับอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอินเดียหรือเต้าหู้ย่าง
มันเทศบดกับวานิลลาและกะทิ
หากคุณยังไม่ได้ลองมันเทศบดกับวานิลลาและกะทิ ถึงเวลาแล้วที่จะนำมาใช้ในมื้ออาหารฤดูหนาวของคุณ น้ำซุปข้นนี้ผสมผสานความหวานตามธรรมชาติของมันเทศเข้ากับกะทิเข้มข้นและกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลของวานิลลา เป็นการเดินทางที่สัมผัสได้อย่างแท้จริง เกือบจะแปลกใหม่ ที่จะมอบสัมผัสแห่งความหวานและหลีกหนีจากมื้ออาหารในฤดูหนาวของคุณ สามารถรับประทานคู่กับแกงผักหรือเสิร์ฟพร้อมกับอาหารย่างเพื่อให้ได้รสชาติที่ตัดกันระหว่างรสหวานและเค็ม น้ำซุปข้นถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ปลอบประโลมใจที่สุดที่คุณสามารถรับประทานได้ในช่วงฤดูหนาว แต่ละช้อนเต็มคือช่วงเวลาเล็กๆ ของความสุข ความหวาน และความอบอุ่น ดังนั้นปล่อยให้ตัวเองถูกล่อลวงด้วยสูตรอาหารเหล่านี้และปล่อยให้น้ำซุปข้นกลายเป็นพันธมิตรของคุณเพื่อเผชิญกับฤดูหนาวปี 2568 ด้วยความละเอียดอ่อน!

สายดิบกินแซ่บระวัง ไข้หูดับ 4 จังหวัดอีสาน ป่วยพุ่งเกือบ 2 ร้อย ดับแล้ว 22 รายารทานอาหารดิบโดยเฉพาะอาหารที่ทำจากหมูดิบ เ...
16/01/2025

สายดิบกินแซ่บระวัง ไข้หูดับ 4 จังหวัดอีสาน ป่วยพุ่งเกือบ 2 ร้อย ดับแล้ว 22 ราย
ารทานอาหารดิบโดยเฉพาะอาหารที่ทำจากหมูดิบ เช่น ลาบดิบ ก้อยหมู หรือเลือดหมูนั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หูดับ ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ร้ายแรง เสี่ยงหูหนวกถาวร ถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้หูดับ ใน 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ในเขตสุขภาพที่ 9 ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568 เขตสุขภาพที่ 9 พบผู้ป่วย โรคไข้หูดับมากถึง 197 ราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 22 ราย
เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า ยอดผู้ป่วยโรคไข้หูดับมากที่สุดในพื้นที่อีสานตอนล่าง ช่วงปี 2567 มีดังนี้

จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วย 120 ราย เสียชีวิต 10 ราย
จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 37 ราย เสียชีวิต 7 ราย
จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 24 ราย เสียชีวิต 3 ราย

Expand article logo อ่านต่อ
จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 16 ราย เสียชีวิต 2 ราย

อัพเดต.... 14/02/2025"ทุกการให้  คือ มักเป็นการสร้างรอยยิ้ม"-สาขาห้วยไคร้-สาขาแม่จัน-สาขาเชียงแสน-สาขาบ้านดู่-สาขาแม่ลาว...
14/01/2025

อัพเดต.... 14/02/2025
"ทุกการให้ คือ มักเป็นการสร้างรอยยิ้ม"
-สาขาห้วยไคร้
-สาขาแม่จัน
-สาขาเชียงแสน
-สาขาบ้านดู่
-สาขาแม่ลาว
-สาขา มหาลัยแม่ฟ้าหลวง
👇👇👇👇👇👇
🛵 พร้อมบริการ 08:00-21:00 ทุกวัน ........
🤗 .............................................................🤗
🍱เปิด "MC Delivery" เลือกจานโปรด 🍱
👉🏼 มีให้โหลดทั้ง Android และ iOS
💾 โหลดเลย 👇👇👇👇👇
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.siamit.mc
✅ สั่งอาหารผ่าน"MC Delivery" ได้เลย

ที่อยู่

20/3 ม. 4 ต. แม่จัน อ. แม่จัน จ. เชียงราย
Chiang Rai
57110

เบอร์โทรศัพท์

+66845022248

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ MC Delivery Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง MC Delivery Thailand:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์